เส้นทางนวัตกรรม JUMBO EV – จากอดีตสู่อนาคต พลิกโฉมสู่การขนถ่ายอัตโนมัติ (AGV)
จุดเริ่มต้นของพันธมิตรงานผลิต
ในคลังสินค้าและโรงงานผลิต รถฟอร์คลิฟท์และรถยกลากอาจเป็นภาพที่คุ้นตา แต่สำหรับสายการผลิตที่ต้องเคลื่อนย้ายวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนจำนวนมากทุกวัน ยังมีอีกหนึ่งพระเอกที่เงียบกว่า แต่ทรงพลังไม่แพ้กัน - นั่นคือ “รถลากจูง”
จุดแข็งของรถลากจูงไม่ใช่เพียงกำลังลากที่มาก แต่คือ “วิธีการทำงาน” ที่แตกต่างออกไป เพราะสามารถต่อพ่วงสินค้าได้หลายชุดในคราวเดียว ทำให้การขนถ่ายจากคลังไปยังจุดผลิตหรือสถานีประกอบเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ลดจำนวนรอบการวิ่งของรถ และประหยัดแรงงานได้อย่างมหาศาล
ไม่ว่าจะเป็นพาเลท ลัง กล่อง หรือแม้แต่ชิ้นส่วนขนาดเล็กที่จัดเรียงบน Dolly รถลากจูงก็สามารถรองรับได้ทั้งหมด และยังมีขนาดกะทัดรัดกว่าและคล่องตัวกว่ารถฟอร์คลิฟท์ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่ทางเดินที่แคบหรือโรงงานที่มีการวางเลย์เอาต์ซับซ้อน นอกเหนือจากการขนส่งในสายการผลิต รถลากจูงยังสามารถ ประยุกต์ใช้ในงานเบิกจ่ายสินค้า (Order Picking) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในคลังสินค้าที่ต้องเตรียมและจัดชุดสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังจุดแพ็กกิ้งหรือขนส่ง การใช้รถลากจูงช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้คราวละหลายรายการ ลดการเดินซ้ำของพนักงาน และทำให้กระบวนการจัดการออเดอร์รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้รถลากจูงกลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบการผลิตแบบ Just-in-time ที่ทุกวินาทีมีค่า - โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ความต่อเนื่องและความตรงเวลาคือปัจจัยความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือคลังสินค้า Fulfillment ที่ต้องส่งสินค้าถึงมือลูกค้าอย่างแม่นยำ
ก้าวแรกของ Jumbo EV (1996–2000)
เจนบรรเจิดเล็งเห็นบทบาทสำคัญของรถลากจูงในโรงงาน จึงเริ่มต้นพัฒนารถลากจูงไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ JUMBO ผลิตและประกอบในประเทศไทย โดยบริษัท เวิลด์ อิควิปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือเจนบรรเจิดที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม Made in Thailand เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
ปี 1996 รุ่นแรก WEV-900A เปิดตัวสู่ตลาด พร้อมกำลังลาก 900 กิโลกรัม และได้รับการตอบรับอย่างดี จนต่อยอดเป็น WEV-900B ที่เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานด้วยการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและติดตั้งพนักพิง และเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่มีข้อกำหนดเข้มงวด บริษัทจึงได้มีการส่งขอเพื่อทดสอบและรับรองเครื่องหมายความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ Geprüfte Sicherheit (GS mark) จากสมาคมตรวจสอบทางเทคนิคเยอรมัน (Technischer Überwachungsverein – TÜV) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทที่ได้รับการรองรับมาตรฐานระดับสากล และหลังจากที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าว ทางบริษัทก็ได้พัฒนารุ่น WEV-900GS ขึ้นมาเป็น WEV-1200 ซึ่งมีขีดความสามารถในการลากมากขึ้นที่ 1.2 ตัน

ก้าวสำคัญเกิดขึ้นในปี 2000 เมื่อเปิดตัว WEV-2000 ที่สามารถลากได้ถึง 2 ตัน มาพร้อมการออกแบบใหม่ตามหลัก Ergonomics ช่วยให้การทำงานคล่องตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น รถรุ่นนี้ผ่านการทดสอบจริงในสายการผลิตของ โตโยต้า — ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก และได้รับคำสั่งซื้อกว่าร้อยคัน เพื่อสนับสนุน

การผลิตรถกระบะ Toyota Hilux VIGO และเครื่องยนต์ดีเซล D-4D Commonrail ในโรงงานสำโรง โรงงานบ้านโพธิ์ และโรงงานสยามโตโยต้าชลบุรี ซึ่งเป็นรุ่นที่สร้างชื่อและติดอันดับขายดีในไทยยุคนั้น ความสำเร็จดังกล่าวยังนำไปสู่ความร่วมมือที่ลึกซึ้งขึ้น เมื่อโตโยต้ามีการขออัปเกรดกำลังลากเป็น WEV-3000 ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 3 ตัน เพื่อตอบโจทย์งานผลิตที่หนักกว่าเดิม ต่อมาบริษัทได้นำโครงสร้างของ WEV-3000 มาปรับใช้กับ WEV-2000 และทดสอบจนสามารถรองรับการลากได้ถึง 2.5 ตัน กลายเป็น WEV-2500 โดยมีการปรับดีไซน์ฝา Cover ด้านหน้าให้สามารถเปิดได้ง่าย เพื่อสะดวกต่อการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาในระยะยาว

การยกระดับสู่มาตรฐานโลก (2012)
ตลอดทศวรรษแรก Jumbo EV ไม่ได้หยุดอยู่ที่การผลิตรุ่นมาตรฐาน แต่ยังพัฒนาตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า (Customization) เช่น การติดตั้งไฟส่องสว่าง สัญญาณเสียงเตือน เบาะซับแรง และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อยืดอายุการทำงานต่อรอบ ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมและต่อยอดเป็น รุ่น Major Change ที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น
ปี 2012 บริษัทเปิดตัว EV-1200 และ EV-2500 รุ่นใหม่ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และสอดคล้องกับการใช้งานจริง ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่ยังคว้ารางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม Design Excellence Award (DEmark) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ Good Design Award (G-mark) จากสถาบันสนับสนุนการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังผ่านการทดสอบเข้มข้นตามมาตรฐานยุโรปจนได้รับ CE certification จากสถาบัน TÜV Nord สำหรับการส่งออกโดยเฉพาะ

และในปีเดียวกันนั้นเอง บริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกการผลิต WEV-900B, WEV-1200, WEV-2000, WEV-2500 เพื่อปิดสายการผลิต WEV เดิมโดยสมบูรณ์ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญจากตระกูล WEV สู่ตระกูล EV อย่างเต็มรูปแบบ
นี่ไม่ใช่เพียงการเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่คือการประกาศวิสัยทัศน์ว่า Jumbo EV กำลังก้าวจาก “เครื่องมือในโรงงาน” สู่ “งานออกแบบที่มีคุณค่าในระดับสากล"
จากรุ่นใหญ่ สู่ความหลากหลาย (2017)
หลังจากที่ Jumbo EV สร้างชื่อด้วยรุ่นใหญ่ที่รองรับงานผลิตระดับอุตสาหกรรมมาแล้วหลายรุ่น ปี 2017 คือก้าวสำคัญที่สะท้อนถึง “ความหลากหลาย” ที่มากขึ้นของตระกูลนี้
บริษัทได้เปิดตัว EV-500 น้องเล็กรุ่นสุดท้องในตระกูล Jumbo EV ที่มาในรูปแบบของรถบรรทุกเอนกประสงค์ ออกแบบมาให้ยืดหยุ่นสำหรับงานเบิกจ่ายสินค้าและการตรวจนับสต๊อก โดยสามารถปรับกระบะท้ายได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบพนักพิง, Flatbed หรือแบบคอกเหล็ก เพื่อรองรับการทำงานที่แตกต่างกันไป
อีกหนึ่งสมาชิกใหม่คือ EV-1200R ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม แต่เปลี่ยนรูปแบบการขับเคลื่อนมาใช้ล้อหลัง และควบคุมด้วย Tiller Head เหมือนรถยกลาก ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

และนอกเหนือจากบทบาทในอุตสาหกรรมการผลิต โรงงาน หรือคลังสินค้าแล้ว Jumbo EV ยังได้ขยายขอบเขตการใช้งานไปสู่อุตสาหกรรมบริการด้วยเช่นกัน — ตัวอย่างที่ชัดเจนคือในปี 2018 รถ EV-1200 ได้ถูกนำไปใช้งานที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสนับสนุนงานขนถ่ายและเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บริการภาคพื้นดิน รวมไปถึงรถเข็นกระเป๋าในอาคารผู้โดยสาร และจนถึงวันนี้ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงความสามารถของ Jumbo EV ที่ตอบสนองงานบริการที่ต้องการความต่อเนื่องได้ไม่แพ้อุตสาหกรรมการผลิต
นี่คือช่วงเวลาที่ Jumbo EV แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะ “งานใหญ่” เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถปรับตัวเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่สายการผลิต คลังสินค้า ไปจนถึงภาคบริการที่มีมาตรฐานระดับประเทศ


ยุคใหม่ EV-1500 (2024)
ปี 2024 คืออีกหนึ่งการก้าวกระโดด เมื่อเจนบรรเจิดร่วมมือกับ Ningbo Ruyi ผู้ผลิตรถ Warehouse Truck ระดับโลกและเป็นคู่ค้ารายสำคัญที่ทำตลาดร่วมกับบริษัทมาตั้งแต่ปี 2013 ภายใต้แบรนด์ Jumbo by Xilin การร่วมพัฒนาครั้งนี้นำไปสู่การถือกำเนิดของ Jumbo EV-1500 รถลากจูงที่แข็งแกร่งและล้ำสมัยกว่าที่เคย EV-1500 คือการต่อยอดโดยตรงจาก EV-1200 แต่ยกระดับคุณสมบัติและเทคโนโลยีขึ้นอีกขั้น

- รับน้ำหนักได้ถึง 1.5 ตัน แต่ยังคงขนาดกะทัดรัดเท่าเดิม
- เปลี่ยนจากมอเตอร์ DC สู่มอเตอร์ AC ประสิทธิภาพสูง ลดภาระการบำรุงรักษา ไม่ต้องเปลี่ยนแปรงถ่าน พร้อมระบบตรวจจับอุณหภูมิและตัดกระแสไฟอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายหากมอเตอร์ร้อนจัดหรือทำงานผิดปกติ
- ระบบควบคุมใหม่จาก Curtis Instruments (สหรัฐอเมริกา) โดยเปลี่ยนจาก Curtis SepEx เป็น Curtis F2A Series ที่ได้รับการยอมรับและใช้ร่วมกันในรถ Class III Warehouse Trucks ของผู้ผลิตระดับโลกหลากหลายแบรนด์
- ใช้แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate (LiFePO4) ชาร์จเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องบำรุงรักษา และมีอายุการใช้งาน (การชาร์จ) ยาวนานกว่า 4,000 รอบ
และทั้งหมดนี้คือเส้นทางของ Jumbo EV ที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างอุตสาหกรรมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงเป็นพลังหลักที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิต และคลังสินค้า แต่ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมบริการระดับประเทศ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยังคงใช้งาน Jumbo EV มาจนถึงปัจจุบัน
และวันนี้ การเดินทางครั้งใหม่ของรถลากจูงอัตโนมัติ EV-1500 AGV ได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมก้าวสู่การเป็นพลังขับเคลื่อนคลังอัตโนมัติยุคใหม่ และยกระดับโลจิสติกส์ไทยต่อไป
เรื่องราวของการเดินทางครั้งใหม่นี้ กำลังจะถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบ — ติดตามต่อได้ในบทความ EV-1500 AGV เร็ว ๆ นี้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
ฝ่ายขาย Industrial Trucks
Tel : +66 2096 9898
จันทร์-ศุกร์ (8.00 - 17.00 น.)
E-mail : as@jenbunjerd.com
LINE Official Account : @jenbunjerd
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.

