เลือกพาเลทยังไงให้ไม่พลาด? ตรงโจทย์ใช้งาน คุ้มค่าสูงสุด!
การเลือกพาเลท (Pallet) ที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงาน ไม่ว่าคุณจะใช้งานในคลังสินค้า ภาคอุตสาหกรรม หรือจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศ พาเลทที่มีอยู่หลากหลายประเภททั้ง พาเลทพลาสติก พาเลทเหล็ก หรือพาเลทจากวัสดุอื่นๆ ถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบโลจิสติกส์ บทความนี้จะแนะนำหลักการเลือกพาเลทอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำและคุ้มค่ามากที่สุด
- ประเมินรูปแบบด้านการใช้งานให้ชัดเจน
- น้ำหนักและขนาดของสินค้า

ควรพิจารณาทั้งน้ำหนักของสินค้าและขนาดของพาเลท ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานจริง- Static Load (น้ำหนักขณะอยู่นิ่ง):
น้ำหนักรวมที่พาเลทรองรับได้เมื่อวางอยู่กับที่ เช่น การวางเรียงซ้อนกันในคลังสินค้า - Dynamic Load (น้ำหนักขณะเคลื่อนย้าย):
น้ำหนักที่พาเลทรองรับได้เมื่อถูกเคลื่อนย้ายด้วยอุปกรณ์ เช่น แฮนด์ลิฟท์หรือโฟล์คลิฟท์
เลือกพาเลทที่สามารถรองรับทั้งน้ำหนักแบบ Static และ Dynamic ได้อย่างปลอดภัยตามลักษณะการใช้งานจริง เพื่อลดโอกาสในการแตกร้าวหรือเกิดอุบัติเหตุ - Static Load (น้ำหนักขณะอยู่นิ่ง):
- การเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขนย้าย
Pallet ควรใช้งานได้ดีกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ เช่น แฮนด์ลิฟท์, สแตกเกอร์, โฟล์คลิฟท์ หรือ ระบบขนย้ายอัตโนมัติ พาเลทแต่ละรุ่นมีช่องยกที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ใช้จริง
- สภาพแวดล้อมในการใช้งาน
พาเลทจะถูกใช้ในพื้นที่เปิดหรือในร่ม เดินทางด้วยรถบรรทุกหรือขนส่งทางเรือ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเลือกวัสดุ เช่น ควรใช้พาเลทพลาสติกหรือพาเลทเหล็กในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
- ข้อกำหนดสำหรับการส่งออก (มาตรฐาน ISPM 15)
หากมีการส่งออกต่างประเทศ พาเลทไม้ต้องผ่านการอบความร้อนหรือรมยา หรือสามารถเลือกใช้พาเลทวัสดุอื่น เช่น พาเลทพลาสติก
- น้ำหนักและขนาดของสินค้า
- ทำความเข้าใจกับวัสดุของพาเลทแต่ละประเภท
- พาเลทไม้ (Wooden Pallet) ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับงานขนส่งแบบครั้งเดียว หรือการใช้งานทั่วไป แต่ต้องดูแลเรื่องความชื้นและเชื้อรา

- พาเลทพลาสติก (Plastic Pallet) พาเลทพลาสติกมีความทนทาน ไม่เป็นเชื้อรา ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร ยา และโรงงานที่ต้องการความสะอาด

- พาเลทเหล็กมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ เหมาะกับงานหนักและคลังสินค้าที่มีการยกวางบ่อยครั้ง
- พาเลทแบบ Stringer และ Block:

- พาเลทไม้ (Wooden Pallet) ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับงานขนส่งแบบครั้งเดียว หรือการใช้งานทั่วไป แต่ต้องดูแลเรื่องความชื้นและเชื้อรา
- ประเมินความทนทานและอายุการใช้งาน

- เปรียบเทียบต้นทุนกับความคุ้มค่า

- รายละเอียดเล็กน้อยที่สร้างความแตกต่าง
- การวางซ้อน (Stackability) ในคลังสินค้าที่มีพื้นที่จำกัด หรือมีความจำเป็นต้องจัดเก็บสินค้าหลายระดับ การวางพาเลทที่มีสินค้าซ้อนกันถือเป็นแนวทางสำคัญในการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ แต่ต้องเลือกพาเลทที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ แรงกดจากการซ้อน (Stack Load) ได้อย่างปลอดภัย โครงสร้างของพาเลทต้องแข็งแรง มั่นคง และเหมาะกับลักษณะการใช้งาน ดังนี้:
- พาเลทพลาสติกแบบรองรับการวางซ้อนสินค้า (Stackable Plastic Pallet)
พาเลทพลาสติกบางรุ่นออกแบบมาให้สามารถวางซ้อนกันขณะมีสินค้าอยู่บนพาเลทได้อย่างปลอดภัย โดยมีฐานแข็งแรงและโครงสร้างรองรับแรงกดจากด้านบน หลายรุ่นเสริมด้วย ลูกยางกันลื่น (Anti-slip) เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างสินค้ากับพื้นผิวพาเลท ช่วยป้องกันไม่ให้สินค้าบนพาเลทลื่นหรือหลุดระหว่างการซ้อนหรือเคลื่อนย้าย - พาเลทแบบสองหน้า (Double-Face Pallet) มีพื้นรองรับทั้งด้านบนและล่าง ทำให้กระจายน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับวางพาเลทที่มีสินค้าซ้อนกันหลายชั้นโดยไม่ต้องใช้ชั้นวาง รองรับน้ำหนักมากและลดโอกาสเกิดการโก่งงอของพาเลทชั้นล่าง
- พาเลทแบบ Block Pallet มีโครงสร้างแข็งแรง ใช้วัสดุเต็มแผ่นและเสริมฐานรองรับน้ำหนัก เหมาะกับการวางซ้อนในแนวสูงและการใช้งานหนักในคลังสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยสูง
ข้อควรระวัง: การวางพาเลทที่มีสินค้าซ้อนกันหลายชั้น ต้องตรวจสอบค่า Stack Load ของพาเลทแต่ละรุ่นให้ชัดเจน และควรใช้ฟิล์มห่อพาเลทหรือสายรัดเพื่อเสริมความมั่นคงระหว่างชั้น - พาเลทพลาสติกแบบรองรับการวางซ้อนสินค้า (Stackable Plastic Pallet)
- การใช้งานกับชั้นวาง (Rackability) พาเลทแต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นพาเลทพลาสติกหรือพาเลทเหล็ก ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้วางบนชั้นวางได้ทั้งหมด ควรเลือกตามลักษณะงานของคุณ:
- พาเลทหน้าเดียว (Single-Face Pallet) เหมาะกับงานทั่วไป เช่น การวางบนพื้นหรือการขนส่ง แต่ ไม่เหมาะกับการวางบนชั้นวางแบบมีช่องโล่ง (Beam Rack) เพราะไม่มีฐานรับน้ำหนักด้านล่าง อาจทำให้พาเลทโก่งหรือหล่นได้หากรับน้ำหนักมากโดยไม่มีจุดพยุง
- พาเลทสองหน้า (Double-Face Pallet) มีพื้นทั้งด้านบนและล่าง แข็งแรงกว่า เหมาะกับการวางบนชั้นวาง (Racking System) โดยเฉพาะในคลังสินค้าที่ต้องจัดเก็บสินค้าหลายระดับ
- พาเลทเสริมเหล็ก (Steel-Reinforced Pallet) พาเลทบางรุ่น โดยเฉพาะพาเลทพลาสติกหรือไม้รุ่น Heavy-Duty จะมีการฝังโครงเหล็กเสริมภายใน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรับน้ำหนักบนชั้นวางแบบไม่มีแผ่นรอง (Beam Rack) เหมาะกับงานที่ต้องจัดเก็บสินค้าหนัก หรือวางบนชั้นสูงหลายระดับ เช่น คลังสินค้าอุตสาหกรรม, ระบบ High Bay Racking หรือสินค้าที่มีจุดศูนย์ถ่วงไม่สมดุล โครงเหล็กที่อยู่ในพาเลทพลาสติกจะช่วยลดความเสี่ยงในการโก่งหรือล้ม และยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น แม้ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความถี่ในการขนย้ายสูง

หากวางบนชั้นวางสูง ควรพิจารณาค่า “Racking Load” เพิ่มเติม ซึ่งคือน้ำหนักสูงสุดที่พาเลทรับได้เมื่อวางบนแร็คที่ไม่มีแผ่นรองด้านล่าง เพื่อความปลอดภัยและมั่นคงในระบบจัดเก็บ
- การยกพาเลทอย่างปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยในการขนย้าย นอกจากการเลือกใช้พาเลทพลาสติกมาตรฐานเพื่อช่วยป้องกันความเสียหายต่อสินค้าแล้ว ควรเลือกใช้อุปกรณ์ช่วยที่เหมาะสมกับลักษณะงานแทนการยกด้วยแรงงานคนโดยตรง
- ใช้อุปกรณ์ยกพาเลทที่เหมาะสม
- เลือกใช้ แฮนด์ลิฟท์, โฟล์คลิฟท์ หรือ อุปกรณ์ยกอัตโนมัติ ตามน้ำหนักและประเภทของพาเลท
- ตรวจสอบว่า พาเลทรองรับการเข้ายกได้กี่ด้าน และใช้ทิศทางยกให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเสียหายของขาและโครงสร้างพาเลท
- หลีกเลี่ยงการลากพาเลทบนพื้นหยาบ หรือพื้นที่ที่ไม่เรียบ เพราะอาจทำให้พาเลทพลาสติกบิ่น แตก หรือเสียรูป
- หากใช้กับโฟล์คลิฟท์ ควร ปรับระยะงาของรถยกสูงให้พอดีกับความกว้างพาเลท เพื่อกระจายน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ และลดแรงกดในจุดใดจุดหนึ่ง
- ตรวจสอบสเปคก่อนใช้งาน
- รู้ค่ารับน้ำหนักของพาเลทแต่ละแบบ เช่น Static / Dynamic / Racking Load
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ยกสามารถรองรับน้ำหนักพาเลทและสินค้าได้ทั้งหมดอย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบพาเลทก่อนใช้งาน
- อย่าใช้งานพาเลทที่มีรอยร้าว ขอบแตก หรือเสียรูป เพราะอาจพังขณะยกหรือจัดเก็บ
- พาเลททุกชนิดทั้งพาเลทพลาสติกหรือพาเลทเหล็กที่ชำรุดควรถูกคัดแยกออกจากการใช้งานทันที
การใช้อุปกรณ์ยกอย่างถูกวิธี ร่วมกับการเข้าใจคุณสมบัติของพาเลทแต่ละประเภท คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอุบัติเหตุ และยืดอายุการใช้งานของพาเลทในระบบคลังสินค้า - ใช้อุปกรณ์ยกพาเลทที่เหมาะสม
- การวางซ้อน (Stackability) ในคลังสินค้าที่มีพื้นที่จำกัด หรือมีความจำเป็นต้องจัดเก็บสินค้าหลายระดับ การวางพาเลทที่มีสินค้าซ้อนกันถือเป็นแนวทางสำคัญในการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ แต่ต้องเลือกพาเลทที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ แรงกดจากการซ้อน (Stack Load) ได้อย่างปลอดภัย โครงสร้างของพาเลทต้องแข็งแรง มั่นคง และเหมาะกับลักษณะการใช้งาน ดังนี้:
Pallet ที่เหมาะสม = ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ
การเลือกพาเลทที่ถูกต้องไม่ใช่แค่เรื่องต้นทุน แต่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ความยั่งยืน และความคล่องตัวของธุรกิจ หากคุณกำลังมองหาพาเลทพลาสติกและพาเลทเหล็กที่เหมาะกับงานของคุณ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเจนสโตร์ จากเจนบรรเจิด พร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างตรงจุด
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
ฝ่ายขายระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ
02-096-9898 ต่อ 1302-1305, 1503
wa@jenbunjerd.com
@jenbunjerd
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.

