COVID-19 กำลังพลิกโลกของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อย่างไร? : เจนบรรเจิด (Jenbunjerd) ผู้นำด้านการผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายที่มีความหลากหลาย

Contact Info

  • 359 Bondstreet Rd.(Chaengwattana 33), Bangpood, Pakkred, Nonthaburi 11120 Thailand
  • info@jenbunjerd.com
  • 02-096-9898 (200 คู่สาย)
COVID-19 กำลังพลิกโลกของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อย่างไร?

ทิศทางของห่วงโซ่อุปทานจะเปลี่ยนไปในแนวทางใดได้บ้าง ลองมาดูกัน

COVID-19 กำลังพลิกโลกของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อย่างไร?

ทิศทางของห่วงโซ่อุปทานของโลกที่ผ่านมาคือรักษาระดับคุณภาพให้สม่ำเสมอพร้อมทั้งลดต้นทุนด้วย ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวอย่างหนาแน่นของภูมิภาคและผู้ขาย แต่จากการที่ COVID-19 ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานทั้งโลกเกิดความชะงักงันอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ แสดงให้เห็นว่าแนวทางนี้ขาดความยืดหยุ่น การยกเครื่องครั้งใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานกำลังจะเกิดขึ้น แต่จะไปในแนวทางใดได้บ้าง ลองมาดูกัน

ที่ผ่านมาองค์กรทั้งหลายต่างพยายามสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจด้วยการสร้างเครือข่ายของห่วงโซ่อุปทานบนแนวคิดว่า ทำอย่างไรให้ได้สินค้าคุณภาพสม่ำเสมอในราคาที่ถูกที่สุดและใช้เวลาขนส่งที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวอย่างหนาแน่นของภูมิภาคและผู้ขาย ยกตัวอย่าง จากบริษัท Fortune 500 นั้น มีมากกว่า 200 องค์กรที่พึ่งพาแหล่งผลิตจากอู่ฮั่น องค์กรต่างๆทั่วโลกก็ล้วนสรรหาสินค้าและชิ้นส่วนจากประเทศจีนเพื่อให้ได้ราคาถูก แต่จากวิกฤตครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงต้นทุนแฝงราคาแพงจากการพึ่งพาเพียงแหล่งเดียวและการขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างที่คาดไม่ถึง มาถึงตอนนี้เรายอมจ่ายแพงขึ้นสำหรับสินค้าบางประเภทเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับสินค้าแน่นอนและรวดเร็ว ดังนั้นจึงคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดการยกเครื่องครั้งใหญ่ในห่วงโซ่อุปทาน กระแสหลักของโลกห่วงโซ่อุปทานใหม่อาจไปในแนวทางใดได้บ้าง ลองมาดูกัน

จากโลกาภิวัฒน์ (Globalization) สู่ ภูมิภาคาภิวัตน์ (Regionalization)
ศูนย์กลางของโลจิสติกส์จะลดระดับลงไปเป็นระดับภูมิภาคมากขึ้นเหมือนในยุค 80 ทิศทางการสรรหาสินค้าจะเปลี่ยนไปเป็นการลดความเสี่ยงของการพึ่งพาเพียงแหล่งเดียว และเน้นไปที่การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัวยิ่งขึ้น 

การเปลี่ยนไปสรรหาจากหลายแหล่งในระดับภูมิภาค จากหลายผู้ขายไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยกตัวอย่าง บริษัทผลิตรถยนต์ขนาดกลาง ซึ่งผลิตรถอยู่ 3 แบรนด์หรือมากกว่านั้น แต่ละแบรนด์ว่าจ้างคนงานประมาณ 200,000 คน และซื้อชิ้นส่วนจากผู้ขายราว 6,000 ราย หากรถแต่ละคันต้องใช้ชิ้นส่วน 4,000 ชิ้น การจัดส่งชิ้นส่วนทั้งหมดให้ทันเวลาถือเป็นงานที่ซับซ้อนทีเดียว หรืออย่างทุกวันนี้ผู้ผลิตด้านอิเล็คทรอนิกส์รายใหญ่สรรหาชิ้นส่วนประมาณ 40% จากจีน (รวมทั้งแบบประกอบย่อย) จากการที่มีจำนวนชิ้นส่วนมหาศาล และแต่ละชิ้นมีระยะเวลาการส่งมอบที่แตกต่างกัน การกลับไปสู่การสรรหาจากหลายแหล่งจึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง 

ถึงจะซับซ้อน ยุ่งยากอย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ได้กำลังเกิดขึ้นแล้วกับวงการยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผู้ผลิตซัพพลายเชนของผู้ผลิตอุปกรณ์และยาต่างเดินหน้าให้เร็วที่สุดเพื่อตอบสนองคำสั่งของภาครัฐ อย่าง Dyson ผู้ผลิตของประเทศอังกฤษที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจากเครื่องดูดฝุ่น เครื่องเป่าผม และพัดลม ได้รับคำสั่งซื้อจากรัฐบาลอังกฤษให้ผลิตเครื่องช่วยหายใจจำนวนกว่า 10,000 เครื่อง ขณะที่ในสหรัฐฯ บริษัท General Motors, Ford และเทสล่า ได้อาสาเข้ามาช่วยเรื่องขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจสำหรับรัฐบาลกลาง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นใน Detroit, New Orleans, และอื่นๆต่างต้องการแหล่งผลิตอุปกรณ์และยารักษาโรคในภูมิภาคของตัวเอง เพราะในทศวรรษที่ผ่านมาสหรัฐฯและยุโรปนำเข้าส่วนประกอบหลักของยา 80% จากจีนและอินเดีย เชื่อว่าหลังจากนี้ รัฐบาลเหล่านี้จะต้องสร้างแหล่งผลิตในภูมิภาคของตนอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้มีส่วนประกอบใดมาจากเพียงแหล่งเดียว 

นอกจากอุตสาหกรรมยาแล้ว ในอุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิกส์ก็ตามมาติดๆ การเปลี่ยนไปทำงานที่บ้านได้เพิ่มความต้องการคอมพิวเตอร์ขึ้นมาอย่างเฉียบพลันในชั่วข้ามคืน จากการที่องค์กรพยายามช่วยให้ทีมงานสามารถปฏิบัติงานได้ และลดความสูญเสียด้านรายได้ ซึ่งบางบริษัทยอมจ่ายแพงขึ้น 10%-20% เพื่อให้ทีมงานมีเครื่องไว้ใช้ แทนที่จะรอ 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางฝ่ายเชื่อว่าถีงแม้จะเกิดการล้างไพ่ในโลกของห่วงโซ่อุปทาน ประเทศจีนก็จะยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ของห่วงโซ่อุปทานทั้งการเป็นแหล่งสั่งซื้อและผลิต โดยน่าจะออกมาเป็นรูปแบบการกระจายความเสี่ยงเป็นยุทธศาสตร์ห่วงโซ่อุปทาน จีน + 1, 2, (หรือ) 3 ซึ่งหมายความว่าประเทศต่างๆยกตัวอย่างเช่น อินเดีย บราซิล หรือโคลัมเบียอาจได้รับประโยชน์ในระยะสั้นจากการกระจายเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานของตลาดสหรัฐฯ 

โปรดติดตามต่อในตอนหน้า

 

 

*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.