เลือกระบบจัดเก็บอัตโนมัติที่ใช่ ต้องดูจากอะไรบ้าง : เจนบรรเจิด (Jenbunjerd) ผู้นำด้านการผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายที่มีความหลากหลาย

Contact Info

  • 359 Bondstreet Rd.(Chaengwattana 33), Bangpood, Pakkred, Nonthaburi 11120 Thailand
  • info@jenbunjerd.com
  • 02-096-9898 (200 คู่สาย)
เลือกระบบจัดเก็บอัตโนมัติที่ใช่ ต้องดูจากอะไรบ้าง

การยกระดับคลังสินค้าไปสู่ระบบ AS/RS ควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง? ไปดูกัน 

เป้าหมายสูงสุดของคลังสินค้าคือ การนำสินค้าที่ถูกต้องไปส่งให้ลูกค้าในปริมาณที่ถูกต้อง การจัดเก็บและเบิกจ่ายได้ถูกพลิกโฉมด้วยระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS) ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของคลังสินค้า ทั้งด้านความแม่นยำ การติดตามสินค้า เพิ่มความหนาแน่นในการจัดเก็บ และความรวดเร็วในการเบิกจ่าย 

 

 

ก่อนที่คุณจะเลือกระบบที่เหมาะสมมาใช้งาน ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆดังนี้

  • รูปแบบการจัดเก็บสินค้า เช่น จัดเก็บเป็นแพลเลท เป็นลัง เป็นกล่อง หรือเป็นชิ้น 
  • รูปแบบการใช้งานเป็นอย่างไร เช่น AS/RS ใช้เพื่อเก็บสินค้าเท่านั้น หรือเป็นการเก็บชั่วคราวก่อนที่จะถูกส่งไปใช้ในการผลิตต่อ ต้องเป็นตัวจ่ายวัตถุดิบเข้าไปยังสายการผลิตหรือไม่ หรือ DC นำทั้งแพลเลทออกมา และบรรจุสินค้าหลายชนิดจากหลายแพลเลทมารวมกันเป็นแพลเลทใหม่ก่อน เป็นต้น  
  • ลักษณะการเบิกจ่าย ต้องเบิกจ่ายกี่รายการต่อวัน ต้องใช้เวลาขนาดไหน? สามารถกระจายออเดอร์เกลี่ยให้ปริมาณพอดีกับแต่ละช่วงเวลาได้หรือไม่? 
  • ความถี่การจัดเก็บและเบิกจ่าย ถ้าจำนวนเคลื่อนไหวน้อยกว่า 50 แพลเลทต่อชั่วโมง ระบบอัตโนมัติอาจไม่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจคุณ
  • จำนวนประเภทสินค้า (SKU) ระบบต้องรองรับกี่ SKU? SKU ใดที่ต้องระวังเรื่องวันหมดอายุ? ต้องเป็น FIFO (เข้าก่อน-ออกก่อน) LIFO (เข้าหลัง-ออกก่อน) หรือ FEFO (หมดอายุก่อน-ออกก่อน)
  • การออกแบบต้องเน้นการเข้าถึงที่ง่ายหรือเน้นความหนาแน่นในการจัดเก็บ หากต้องการแบบที่สามารถเข้าถึงสินค้าได้ตามความต้องการ แปลว่ารูปแบบการจัดเก็บจะต้องได้รับการออกแบบให้สามารถเข้าถึงแพลเลทแต่ละตัวได้ แต่หากมี SKU น้อยๆ ไม่เน้นเรื่องการเข้าถึงสินค้าแต่ละแพลเลท การออกแบบก็จะเน้นไปที่การพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งก็คือแบบ Double-Deep เพราะสามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นในพื้นที่จำกัด แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ความรวดเร็วในการเบิกจ่ายจะลดลง เช่น มีสินค้า 200 SKU จำนวน 20,000 แพลเลท แทนที่จะใช้เครนระบบงาเสียบ ควรจะเพิ่มตัวรองรับกระสวยแทน เพื่อให้กระสวยสามารถออกจากเครนและวิ่งลึกเข้าไปในเลน
  • พื้นที่คลังสินค้าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นการสร้างคลังสินค้าใหม่ก็ควรออกแบบให้ใช้พื้นที่แนวดิ่งในอากาศให้สูงและมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปัจจุบันสามารถยกได้สูงถึง 40-45 เมตร
  • น้ำหนักของโหลดอยู่ที่เท่าไหร่ เครนของ Unit Load AS/RS สามารถรับน้ำหนักได้ 0.5-2.5 ตัน โดยบางระบบอาจสามารถรับได้ 2-3 แพลเลทในคราวเดียว ขณะที่ Mini-Load AS/RS เครนจะได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสินค้าที่เป็นลังหรือกล่องเล็กๆ น้ำหนักไม่เกิน 35 กิโลกรัม AS/RS ระบบ Unit Load และ Mini-Load นั้นสามารถจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าได้จากทุกตำแหน่งในชั้นวาง และสามารถส่งสินค้านั้นไปยังด้านหน้าหรือท้ายของแถวนั้นๆ โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบ ศูนย์กระจายสินค้าหลายๆแห่งอาจมีทั้งสองระบบร่วมกันก็เป็นได้ เพราะสินค้าที่เข้าคลังส่วนใหญ่มักจะมาในรูปของแพลเลท แล้วทำการแตกสินค้าเป็นกล่องย่อยๆไป

 

 

*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.