วิธีจัดการสต็อกอย่างชาญฉลาด ลดความเสี่ยง และรักษาสภาพคล่องธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ต้องเผชิญความท้าทายมากขึ้น การบริหารสินค้าคงคลังอย่างแม่นยำไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังรักษาสภาพคล่องและความสามารถในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง
- ติดตามรูปแบบความต้องการของตลาดอย่างใกล้ชิด
หนึ่งในความท้าทายใหญ่ของการบริหารสินค้าคงคลังในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คือ การพยากรณ์ความต้องการให้แม่นยำ เพราะหากสต็อกสินค้ามากเกินไปหรือไม่เพียงพอ อาจทำให้สูญเสียรายได้ ทรัพยากรถูกใช้อย่างไร้ประโยชน์ และลูกค้าไม่พึงพอใจ
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ คุณควรติดตามพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าอย่างใกล้ชิด และปรับระดับสินค้าคงคลังตามสถานการณ์ เช่น การใช้ข้อมูลยอดขายในอดีต แนวโน้มตลาด ความคิดเห็นของลูกค้า และการคาดการณ์ยอดขาย
อย่าลืมทบทวนและปรับการคาดการณ์ความต้องการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า - ลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าคงคลัง
ต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลัง เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ จัดเก็บ ขนส่ง และการจัดการ สามารถกินกำไรไปได้มากโดยเฉพาะหากมีสินค้าคงคลังที่เกินจำเป็นหรือเสื่อมสภาพ
แนวทางลดต้นทุน ได้แก่
- ต่อรองราคาหรือเงื่อนไขกับซัพพลายเออร์
- รวมคำสั่งซื้อและการจัดส่งเพื่อประหยัดค่าขนส่ง
- ใช้เทคนิค Lean Inventory เช่น Just-in-Time (JIT) หรือ Vendor-Managed Inventory (VMI) เพื่อควบคุมระดับสินค้าคงคลังให้ต่ำและลดของเสีย
- ระบายสินค้าคงเหลือหรือบริจาคเพื่อลดภาระการจัดเก็บและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
- เพิ่มความแม่นยำของข้อมูลสินค้าคงคลัง
หากข้อมูลสินค้าคงคลังไม่ตรงกับของจริง จะเกิดปัญหา เช่น สินค้าขาดเกิน หาย ผิดที่ หรือทำให้บัญชีคลาดเคลื่อน ควรมีการตรวจนับสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจแบบวนรอบ (Cycle Count), การตรวจนับจริง (Physical Count), หรือการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด
รวมถึงควรใช้ระบบซอฟต์แวร์บริหารสินค้าคงคลัง (WMS) เพื่อช่วยบันทึกการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์
- ปรับผังจัดเก็บสินค้าให้เหมาะสม
การจัดเรียงสินค้าในคลังอย่างมีประสิทธิภาพช่วยประหยัดเวลาและพื้นที่
แนวทาง เช่น
- จัดกลุ่มสินค้าที่คล้ายกันไว้ด้วยกัน
- วางสินค้าที่ขายดีใกล้ทางเข้า-ออก
- ใช้พื้นที่แนวดิ่งให้เต็มที่
- ใช้ชั้นวางที่เหมาะสม
- มีป้ายหรือรหัสสินค้าให้ชัดเจน
- มีแผนผังคลังสินค้าที่เข้าใจง่าย
- เพิ่มความโปร่งใสในการมองเห็นสินค้าคงคลัง (Inventory Visibility)
หากข้อมูลสินค้าคงคลังไม่ชัดเจนหรือเข้าถึงได้ยาก อาจนำไปสู่การสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ
การเพิ่มความโปร่งใสสามารถทำได้โดยใช้ระบบบริหารสินค้าคงคลัง (WMS) ที่สามารถดูข้อมูลเรียลไทม์ได้ เช่น ปริมาณสินค้า
ตำแหน่ง การเคลื่อนไหว
ควรเชื่อมระบบบริหารสินค้าคงคลังกับระบบอื่น ๆ ของธุรกิจ เช่น บัญชี ฝ่ายขาย หรือการตลาด เพื่อให้วิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น - ปรับตัวให้เร็ว บริหารด้วยความยืดหยุ่น
ช่วงเศรษฐกิจผันผวนต้องมีความยืดหยุ่นในการบริหารสินค้าคงคลัง เช่น
- ขยายกลุ่มสินค้าและตัวเลือกให้หลากหลายขึ้น
- กระจายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดใหม่ ๆ
- ร่วมมือกับธุรกิจหรือซัพพลายเออร์ในการแลกเปลี่ยน/แบ่งปันสินค้าคงคลัง
- ใช้โปรโมชั่นหรือส่วนลดเพื่อเร่งยอดขายหรือควบคุมระดับสินค้า
สรุป: ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย การบริหารสินค้าคงคลังที่ดีไม่เพียงแค่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้ตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น และรักษาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไว้ได้อย่างยั่งยืน
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.

