EP.5 เทรนด์ที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาคลังสินค้าอัจฉริยะในอนาคต
คลังสินค้าถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบอัจฉริยะและระบบเศรษฐกิจในอนาคต นวัตกรรมใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น ระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์, Digital Feedback, การเชื่อมต่อสู่ลูกค้าตลอดเวลา การใช้ระบบโครงข่าย 5G ในการสื่อสารระหว่างแต่ละสาขา ล้วนมีบทบาทกับคลังสินค้าทั้งนั้น หลายๆคนอาจไม่เคยคิดเลยว่า อาคารที่ใช้ในการเก็บสินค้า ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอะไรมากมาย ไม่น่าจะจะมีโอกาสที่จะพัฒนานวัตกรรมได้ซะด้วยซ้ำ กลับกลายเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาระบบอัจฉริยะใหม่ๆ ที่จะยกระดับคลังสินค้าและธุรกิจสู่การเติบโตที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เทรนด์ใหม่ๆ 4 เทรนด์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมนี้ได้แก่

- คลังสินค้าต้องสามารถเปลี่ยนแปลง ตอบรับกับงานใหม่ๆได้ตลอดเวลา
คลังสินค้าเป็นสถานที่ๆที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าตลอดเวลา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีความต้องการและปริมาณงานที่มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป กว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคปัจจุบันที่เลือกซื้อสินค้าออนไลน์ให้ความสำคัญกับการจัดส่ง และกว่า 54% ต้องการได้รับสินค้าภายในเวลาน้อยกว่า 2 วัน นอกจากนี้การคืนสินค้าต้องง่าย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ผลักดันให้คลังสินค้าต้องยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน
ดังนั้นคลังสินค้าในโลกปัจจุบันต้องฉลาด มีความเป็นอัจฉริยะ และจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการนำข้อมูลเข้ามาประมวลผล เพราะข้อมูลคือตัวขับเคลื่อนงานหลังฉากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Big Data การให้เครื่องจักรต่างๆเรียนรู้จากรูปแบบการทำงาน การกำหนดเส้นทางส่งสินค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด ข้อมูลของสินค้าทุกรายการในทุกมิติ ไม่ว่าเป็น ขนาด รูปทรง น้ำหนัก ฯลฯ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ การออกแบบพื้นที่คลัง และขั้นตอนการทำงานโดยรวม การวิเคราะห์และนำระบบอัจฉริยะเข้ามาใช้งาน (ทั้งในด้านการตรวจสอบสินค้า วิเคราะห์ข้อมูลจากภาพ ใช้ระบบ AR และระบบหุ่นยนต์)
- คลังสินค้าต้องสามารถรองรับบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆได้
อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีพัฒนาการและความซับซ้อนมากกว่าแต่ก่อน นอกจากหน้าที่หลักในการปกป้องสินค้าแล้ว บรรจุภัณฑ์ยังมีอีกหน้าที่สำคัญ คือการสื่อสารเรื่องของแบรนด์ให้กับลูกค้าอีกด้วย และปัจจุบันถือว่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน หลายองค์กรมีการยกระดับด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์ และนำข้อมูลจากการบรรจุภัณฑ์นี้เองมาใช้ในการพัฒนาการทำงาน
การส่งสินค้าโดยการโยนใส่กล่องแล้วจบนั้นไม่มีอีกต่อไป สินค้าลงในบรรจุภัณฑ์เพื่อจัดส่งต้องมีการป้องกันที่เพียงพอ เพื่อให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่จากเบิกจ่ายจนถึงการจัดส่ง จุดอื่นๆที่ต้องพิจารณาเช่น น้ำหนัก ความทนทาน ขนาด พื้นที่จัดเก็บ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้บรรจุภัณฑ์มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นลังกระดาษธรรมดา ไปจนถึงพลาสติกขึ้นรูป หรือวัสดุอื่นๆที่มีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ในสินค้าแต่ละแบบ การบริหารจัดการก็แตกต่างกัน สินค้าบางประเภทมีข้อจำกัดด้านความแข็งแรง อาจต้องมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์เสริมเพื่อเพิ่มการปกป้องเป็นพิเศษ ซึ่งในบางกรณีอาจมีถึงสองถึงสามชั้น และต้องคำนึงถึงขั้นตอนขนส่งตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ต้องถูกจับไปรวมกับอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะกล่อง แพลเลท ฟิล์มยืด หรือแม้แต่ลังที่ต้องโดนโยน ซ้อนทับ หรือลังแบบพับได้เมื่อสินค้าดังกล่าวถูกจัดส่งออกไปแล้ว เป็นต้น
อีกประเด็นที่ต้องพิจารณาคือการติดตามสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ปัจจุบันมีทั้งการใช้แผ่นบาร์โค้ด หรือแท็ก RFID เพื่อให้ผู้ซื้อ ผู้ขายและพนักงานจัดส่งสามารถรับรู้ได้ว่าสินค้าดังกล่าวไปถึงมือใครบ้างแล้ว การจัดส่งสินค้าของ Amazon, UPS และ FedFex ในสหรัฐฯรวมกันในปัจจุบันนั้นสูงมากถึง 15,000 ล้านกล่องต่อปี การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ จนไปถึงการติดตามสินค้าจึงถือเป็นเรื่องสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าดังกล่าวจะจัดส่งถึงปลายทางและไม่ตกหล่นเสียหาย
- คลังสินค้าผสานระบบหุ่นยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพและประยุกต์การทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การทำงานภายในคลังสินค้าสมัยใหม่ในปัจจุบันมีการนำระบบหุ่นยนต์เข้ามาใช้งาน เช่น Alibaba ซึ่งใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติในการทำงานกว่า 70% ของทุกงานภายในคลัง เหมือนกับ Amazon และ Ocada ซึ่งได้สร้างมาตรฐานในการใช้งานหุ่นยนต์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
หุ่นยนต์ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ เช่น Collaborative Robots (Cobot) ซึ่งใช้ระบบแขนกลในการหยิบจับสินค้า จะมีระบบเซ็นเซอร์รอบตัวที่ตรวจจับบุคคลและสิ่งกีดขวาง ทำให้สามารถทำงานร่วมกับคนได้อย่างปลอดภัย หรือชุดหุ่น Exoskeleton ที่ช่วยให้พนักงานคลังสามารถยกสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งรถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ หรือ AGVs ซึ่งเป็นพาหนะที่สามารถขนถ่ายสินค้าไปยังจุดต่างๆภายในคลังได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยการนำระบบอัจฉริยะเข้าจัดการอุปกรณ์ต่างๆที่ว่านี้ การทำงานภายในคลังสินค้าก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างอิสระ สามารถสั่งการต่างๆหรือแก้ไขการทำงานต่างๆผ่านระบบไร้สายและไม่จำเป็นต้องใช้คนหรือพนักงานจำจำนวนมากอีกต่อไป
นอกจากนี้ การใช้หุ่นยนต์ภายในคลังสินค้ายังช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น หรือแก้ไขขั้นตอนการทำงานภายหลังได้ เช่น คลังสินค้าที่ใช้ในการสนับสนุนงานผลิต หรือคลังสินค้าที่สนับสนุนงานค้าปลีก ที่ต้องทำการเบิกจ่ายสินค้าหลายๆประเภทและทำการบรรจุรวมเพื่อส่งให้กับสาขาใดสาขาหนึ่ง เวลารับวัตถุดิบหรือสินค้าเข้าคลัง มักจะรับเป็นจำนวนมากในคราวเดียว แต่เวลาเบิกจ่ายให้กับสายการผลิตหรือสาขาต่างๆ ต้องสามารถเลือกชิ้นส่วนที่ต้องการได้อย่างอิสระในจำนวนตามความต้องการใช้งานจริง บทบาทของคลังสินค้าจะเปลี่ยนจากการจัดเก็บเพียงอย่างเดียว ไปสู่การเป็นการหน่วยงานที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท และต่อยอดระบบด้วย AI ไปสู่การเรียนรู้เพื่อเบิกจ่ายสินค้าให้กับลูกค้า หรือสั่งซื้อวัสดุดิบโดยอัตโนมัติได้
- คลังสินค้าอัจฉริยะช่วยให้ใช้ประโยชน์จาก Edge Computing ได้มากที่สุด
คลังสินค้าอัจฉริยะสามารถนำเทคโนโลยีทั้งด้านกายภาพและการวิเคราะห์เข้ามาเป็นระบบเดียว ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว จัดสรรแรงงานได้อย่างคุ้มค่า เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน นำไปสู่การจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกัน ช่วยให้สามารถเห็นถึงการทำงานเชิงระบบและวางแผนต่อความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ระบบอัจฉริยะของคลังสินค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องนั้นมาจากสิ่งที่เรียกว่า Edge Computing หรือระบบศูนย์กลางที่สั่งการจากข้อมูลที่ได้รับจากทุกอุปกรณ์ภายในคลังสินค้า ช่วยให้สามารถสั่งการทุกอุปกรณ์ได้แบบ Real-time ซึ่งในกรณีที่ทำเป็นระบบอัตโนมัติเต็มทั้งระบบ ก็จะสามารถสั่งจากหน้าจอเดียวและตัดความผิดพลาดจากการทำงานของคนได้โดยสมบูรณ์
คลังสินค้าในปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีบทบาทสำคัญในโลกสมัยใหม่ มีการทำงานที่ล้ำสมัย ซับซ้อน และสามารถสื่อสารถึงกันได้ ทำให้สามารถรู้สถานะของทุกสินค้าในทุกขั้นตอน ต่อไปนี้ คุณอาจจะขับรถผ่านอาคารขนาดใหญ่แล้วไม่คิดว่าเป็นแค่โกดังเก็บสินค้าอีกต่อไป แต่เป็นจุดสำคัญที่ช่วยสร้างและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกปัจจุบัน
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.


