ทำความรู้จักหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) ประเภทต่างๆ : เจนบรรเจิด (Jenbunjerd) ผู้นำด้านการผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายที่มีความหลากหลาย

Contact Info

  • 359 Bondstreet Rd.(Chaengwattana 33), Bangpood, Pakkred, Nonthaburi 11120 Thailand
  • info@jenbunjerd.com
  • 02-096-9898 (200 คู่สาย)
ทำความรู้จักหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) ประเภทต่างๆ

EP.2 หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ แต่ละประเภท ทำงานต่างกันอย่างไร?

เมื่อพูดถึงระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ องค์กรต่างๆในทุกอุตสาหกรรมล้วนพยายามหาทางที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆมาปรับใช้ในการทำงานในคลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทำกำไรให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่จับตามองคือหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (Autonomous Mobile Robots หรือ AMRs) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับงานเฉพาะทาง 4 กลุ่มหลักๆ ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์หลายๆตัวอาจดูคล้ายคลึงกัน แต่อาจะไม่สามารถทำงานแบบเดียวกันได้เสมอไป ไม่ว่าจะเป็นด้านขั้นตอนการทำงาน อุปกรณ์ที่รองรับ หรือน้ำหนักสินค้าที่แตกต่างกันไป โดยรายละเอียดของแต่ละประเภทมีดังนี้

  1. หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) สำหรับงานเคลื่อนย้ายภายในคลังสินค้า
    การเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังตำแหน่งต่างๆภายในคลังสินค้าเป็นงานที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่ามากนัก แต่กลับต้องใช้เวลาและพลังงานของบุคลากรภายในคลังสินค้าเป็นอย่างมาก จึงเป็นหนึ่งในงานแรกๆที่จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ ที่ผ่านมาหากต้องการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ ตัวเลือกจะมีรถฟอร์คลิฟท์ ระบบสายพานลำเลียง หรือ AGVs ซึ่งต้องลงทุนด้านแรงงาน พื้นที่ และเงินทุนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ AMRs สามารถทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสินค้าแทนได้ ทั้งสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือจำนวนมากๆ ไปจนถึงงานสินค้าขนาดเล็กที่เป็นลังหรือกล่อง ซึ่งการทำงานจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้

     
  2. หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) สำหรับงานเบิกจ่ายสินค้า
    การเบิกจ่ายสินค้าเป็นหนึ่งในงานคลังสินค้าที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงที่สุด ไม่ใช่เพราะต้องลงทุนด้านการอบรมบุคลากร แต่เพราะเป็นงานที่เสียเวลามาก การเดินไปเบิกสินค้าในแต่ละจุดในคลังสินค้าใช้เวลามหาศาล จากการวิจัยในสหรัฐฯพบว่า การเดินไปยังตำแหน่งเบิกจ่ายต่างๆใช้เวลากว่า 75% ของงานเบิกจ่ายทั้งหมด AMRs สำหรับงานเบิกจ่ายสินค้า ได้รับการออกแบบเพื่อลดเวลาในการเบิกจ่ายสินค้า ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสินค้าไปยังบุคลากรที่สถานีเบิกจ่ายแทนการเดิน สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายได้ในหลายรูปแบบดังนี้ 

    การเบิกจ่ายทั่วไป
    ในวิธีการทำงานแบบดั้งเดิม สินค้าแต่ละ SKU จะถูกจัดเก็บไว้ที่ชั้นวางที่ติดตั้งตายตัว และพนักงานต้องเดินไปยังแต่ละจุด เพื่อเบิกสินค้ามารวมไว้ในกล่องบนสายพานลำเลียง บนรถ หรือเป็นขนถ่ายด้วยตัวพนักงานเอง แต่การนำ AMRs มาใช้ จะทำให้สามารถเบิกจ่ายตามพื้นที่ (Zone Picking) โดย AMRs จะทำหน้าที่ขนกล่องไปยังจุดต่างๆในพื้นที่ที่กำหนด พนักงานประจำจุดนั้นๆจะหยิบสินค้าที่ใกล้ที่สุดมาใส่กล่องดังกล่าว โดยอาจใช้ระบบช่วยเหลือ เช่นระบบภาพเสมือนจริง, RFID หรือระบบ Pick-to-light ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงานได้ด้วย หลังจากเบิกจ่ายเสร็จ AMRs จะนำกล่องดังกล่าวไปยังจุดถัดไป หรือนำไปส่งที่สถานีบรรจุหีบห่อเพื่อส่งสินค้าให้ลูกค้า ในแต่ละขั้นตอนอาจมี AMRs หลายตัวทำหน้าที่ต่างๆในแต่ละพื้นที่พร้อมกัน เพื่อช่วยให้พนักงานประหยัดเวลาในการเดินไปหาสินค้า และมีเวลาหยิบสินค้ามากขึ้น การปรับงานเคลื่อนย้ายส่วนนี้ให้เป็นระบบอัตโนมัติสามารถช่วยปรับปรุงระยะเวลาการตอบสนองคําสั่งซื้อจากลูกค้า (Total Order Cycle Time) โดยการให้พนักงานอยู่ประจำโซนของตัวเองและลดระยะเวลาการเดินทางของพนักงาน

    การเบิกจ่ายแบบ Goods-to-Person 
    การทำงานลักษณะนี้ จะเก็บสินค้าหลายๆ SKU ไว้ในชั้นวางเดียวกัน เมื่อ AMRs ได้รับคำสั่งให้เบิกจ่าย SKU นั้นๆ AMRs จะวิ่งไปยังชั้นวางนั้น แล้วยกทั้งชั้นวางไปยังสถานีเบิกจ่ายด้วยเส้นทางที่สั้นที่สุด โดยสถานีเบิกจ่ายจะต้องได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับคิวของ AMRs ที่กำลังขนชั้นวางมาให้พนักงานหยิบสินค้า และใช้งานควบคู่กับระบบ Pick-to-light เพื่อให้พนักงานหยิบ SKU และจำนวนที่ถูกต้อง บรรจุลงกล่องตามที่คำสั่งซื้อระบุมา ในขณะที่พนักงานกำลังบรรจุสินค้า AMRs ตัวเดิมจะวื่งไปรับงานอื่นต่อ และ AMRs ตัวถัดไปที่อยู่ในคิวก็จะรอให้พนักงานเตรียมเบิกจ่ายสินค้าต่อไป โดยทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยระบบบริหารคลังสินค้า (WMS/WES) ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการกระบวนการการส่งมอบสินค้าทั้งหมด โดยติดตามทั้งตำแหน่งและจำนวนของสินค้าที่ต้องเบิก เพื่อประสานงานและส่งคำสั่งให้ AMRs ทำงานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการเสียเวลาจากการเดินและค้นหาสินค้า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงถึง 450% 



    กรณีการเบิกจ่ายแบบอื่นๆ เช่นการใช้ระบบ Pick-to-cart การนำ AMRs มาใช้ ก็จะมีประโยชน์มาก เพราะสามารถลากรถเข็นจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งเพื่อรับสินค้าในแต่ละโซน หรือนำรถเข็นที่บรรทุกสินค้าครบแล้วมาส่งที่สถานีบรรจุสินค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เหมือนกับ Goods-to-person เช่นกัน 

    งานเบิกจ่ายประเภทอื่นๆ
    AMRs สามารถช่วยเหลืองานเบิกจ่ายประเภทอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น 
    •    การเติมเต็มสินค้าแบบ Real-time ซึ่งสั่งการโดยระบบควบคุมส่วนกลางเมื่อสินค้าในชั้นวางเหลือน้อยกว่าปริมาณที่กำหนด โดย AMRs สามารถนำสต็อกไปเติมยังสถานีเบิกจ่าย และนำบรรจุภัณฑ์ไปเก็บที่ชั้นวางได้ด้วย 

    •    งานเบิกจ่ายที่ไม่สามารถใช้สายพานลำเลียงได้ ในกระบวนการส่งมอบคำสั่งซื้อตั้งแต่การเบิกจ่าย บรรจุหีบห่อ และส่งสินค้าด้วยระบบสายพานลำเลียง บางครั้งอาจมีสินค้าหรือใบสั่งซื้อบางรายการที่ไม่เหมาะกับการส่งผ่านระบบสายพาน เช่น สินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือมีความเสี่ยงต่อการแตกหักเสียหาย หรือคลังสินค้าอาจกำหนดให้สินค้าส่วนใหญ่เบิกจ่ายผ่านระบบสายพาน ขณะที่สินค้าที่เคลื่อนที่น้อยจะเก็บไว้อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ได้ใช้สายพาน ทำให้บางครั้งคำสั่งซื้อจะประกอบด้วยสินค้าที่ต้องเบิกจ่ายจากหลายจุด ในกรณีต่างๆดังกล่าว สามารถใช้ AMRs เหมือนกับใช้สายพานลำเลียงในการขนย้ายสินค้าไปที่จุดเบิกจ่าย แล้วค่อยส่งสินค้าที่เบิกจ่ายสมบูรณ์ทั้งหมดตรงไปยังจุดบรรจุหีบห่อ หรือจัดส่ง โดยไม่ต้องผ่านระบบสายพาน 

     
  3. หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) สำหรับงานจัดและจำแนกสินค้า
    AMRs สามารถช่วยงานจำแนกสินค้าได้เป็นอย่างดื โดยสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมเช่น แขนกล สายพาน ชุดชั้นวางสินค้า ถาดรับสินค้า หรือระบบ Cross-belt เป็นต้น เพื่อให้สามารถเทหรือส่งสินค้าไปยังจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางลาด ชั้นวาง หรือสายพานลำเลียงได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ AMRs สามารถรับสินค้า จำแนกสินค้า และส่งสินค้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆได้เกือบทุกรูปแบบ หรือใช้งานแบบ Conveyor-to-Conveyor ได้ เพื่อลดรอยต่อและการลงทุนในการติดตั้งสายพานลำเลียงใหม่ และจากการที่ AMRs ทำงานโดยอิสระและไม่ตายตัว จึงสามารถช่วยการจัดคิวการเบิกจ่ายและจัดส่งสินค้า รวมทั้งจัดเรียงสินค้า เช่นให้สินค้าที่หนักที่สุดวางอยู่ด้านล่างสุด และสินค้าที่เบาที่สุดหรือแตกง่ายอยู่บนสุด หรือเรียงสินค้าที่จะจัดส่ง โดยให้สินค้าที่ต้องจัดส่งปลายสายรถเข้าก่อน และสินค้าที่ต้องจัดส่งสถานที่แรกเข้าหลังสุด เป็นต้น

     
  4. หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) สำหรับงานตรวจเช็คและนับสินค้าคงคลัง
    ไม่มีคลังสินค้าใดที่มีระบบการบริหารสินค้าคงคลังที่สมบูรณ์ 100% เพราะบางขั้นตอนในการทำงานอาจไม่ได้รับการบันทึกลงสู่ระบบ การใช้ AMRs ติดตามและตรวจสอบขั้นตอนการทำงานจะทำให้รู้ทันทีว่าเกิดปัญหาที่ขั้นตอนใดและช่วยให้สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที AMRs สามารถช่วยงานบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างแม่นยำและโปร่งใส ทำให้รู้ว่ามีสินค้าอะไร จำนวนเท่าไหร่อยู่ในคลังสินค้า โดยเฉพาะคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มีขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน การเคลื่อนย้ายสินค้าคงคลังหรือรวบรวมคำสั่งซื้อต้องใช้เวลาและการประสานงานระหว่างฝ่ายที่ซับซ้อน การใช้ AMRs ทำหน้าที่นี้และเชื่อมโยงกับระบบบริหารคลังสินค้า จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานได้สูงสุด 

 

 

*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.