
EP.1 หุ่นยนต์ช่วยงานคลังสินค้า จะยกระดับธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างไร?
หุ่นยนต์ช่วยงานคลังสินค้า (Warehouse Robotics)
ระบบอัตโนมัติสำหรับคลังสินค้ามีการพัฒนาไม่หยุดยั้ง และกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพการทำงาน ทั้งการรับมือกับความท้าทายต่างๆในคลังสินค้าที่มีนับไม่ถ้วนในแต่ละวัน ไปจนถึงการเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น รวมทั้งการเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานที่มีมูลค่างานมากกว่าการทำงานซ้ำๆที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่า
ระบบหุ่นยนต์ที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้งานร่วมกับรถยกกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในคลังสินค้าขนาดใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกา เพราะเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ช่วยลดค่าแรงได้มหาศาล รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน จากสถิติในสหรัฐพบว่า
- ต้นทุนการดำเนินงานของคลังสินค้าส่วนใหญ่ กว่า 65% คือค่าแรง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 3% ทุกปี
- ระบบหุ่นยนต์ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของคลังสินค้าได้มากถึง 70%
- ระยะเวลาคืนทุน อ้างอิงจากการทำงาน 3 กะต่อเนื่อง สามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็วเพียง 13 เดือนเท่านั้น
แต่หลายบริษัทยังลังเลที่จะนำระบบนี้มาใช้ เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ปัจจุบันระบบหุ่นยนต์ในปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลกว่าอดีตมาก ทำให้การคืนทุนดีกว่าเดิมมาก ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่เอาตัวอย่างล้ำยุคอย่างที่ Amazon หรือ Alibaba ใช้ แต่เรากำลังพูดถึงระบบอัตโนมัติที่ราคาเข้าถึงได้จริง และสามารถประยุกต์ใช้งานกับคลังสินค้าเดิมที่มีระบบงานเดิมได้ โดยค่อยๆพัฒนาระบบงานทีละขั้นทีละตอน การนำเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาใช้งานในคลังสินค้าอาจไม่ใช่เรื่องง่าย คลังสินค้าเดิมก็มักจะมีการออกแบบและเส้นทางการทำงานของมันอยู่แล้ว ดังนั้นในการออกแบบการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ระบบอัตโนมัติที่จะนำเข้ามาใช้งานต้องสามารถยืดหยุ่นเพื่อให้ใช้งานกับคลังสินค้าเดิมและการทำงานแบบดั้งเดิมได้ โดยส่งผลกระทบและเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้น้อยที่สุด
ปัจจุบันมีหุ่นยนต์อยู่ 2 ระบบใหญ่ๆได้แก่
- Industrial Robots – ระบบหุ่นยนต์ที่ทดแทนการทำงานด้วยคน โดยเฉพาะการทำงานที่ซ้ำซากจำเจภายในคลังสินค้า หุ่นยนต์เหล่านี้กำลังเป็นที่ต้องการและคาดว่าจะเป็นตลาดที่โตมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
- COBOT (Collaborative Robots) – ไม่เพียงแต่จะสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นเอกเทศ แต่ยังสามารถทำงานร่วมกับคนได้อย่างลงตัว ซึ่งระบบ Cobot นี้คือการนำความสามารถของหุ่นยนต์และมนุษย์มาทำงานร่วมกัน โดยผสานความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความสามารถในการทำงานซ้ำๆได้ดีของหุ่นยนต์ เข้ากับความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์ และการตัดสินใจของคน เช่น แขนกลอัตโนมัติ กำลังเป็นแนวโน้มที่มีการเติบโตในคลังสินค้า
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกกิจการจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นด้วยทรัพยาการที่น้อยลง โดยเฉพาะวงการคลังสินค้าที่มีบทบาทสำคัญกับห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเทคโนโลยีสำหรับคลังสินค้านั้น มีการพัฒนาขีดความสามารถตลอดเวลาอย่างไม่หยุดยั้ง เชื่อว่าในทศวรรษหน้าคลังสินค้าจะอยู่บนรากฐานของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยกระบวนการที่ทรงประสิทธิภาพ และมีการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งานในห่วงโซ่อุปทานอย่างแพร่หลาย