
ปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อต้นทุนการลงระบบ AS/RS มีอะไรบ้าง มาดูกัน
การทำงบประมาณโครงการขนาดใหญ่จะง่ายกว่ามากหากคุณทราบว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคามีอะไรบ้าง ดังนั้นคุณควรมีความเข้าใจปัจจัยต่างๆที่จะส่งผลถึงต้นทุนด้วย ต้นทุนของการลงระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติ (AS/RS) จะแตกต่างกันตามอุตสาหกรรมและระบบการทำงาน แต่ปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อต้นทุนการลงระบบ AS/RS จะมีอยู่ 5 ประการดังนี้
- พื้นที่แนวดิ่งของคลังที่เป็นที่โล่งหรือไม่
พื้นที่ในแนวดิ่งที่เป็นที่โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง จะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลถึงต้นทุนการลงระบบ AS/RS เพราะยิ่งสร้างให้สูงได้เท่าไหร่ ต้นทุนการจัดเก็บต่อตารางเมตรก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าระบบ AS/RS ที่เตี้ยเมื่อเทียบแล้วจะมีต้นทุนการจัดเก็บต่อตารางเมตรที่แพงกว่าระบบที่มีความสูงมากกว่า เพราะส่วนประกอบที่มีมูลค่าสูงที่สุดของระบบ AS/RS อยู่ที่ชิ้นส่วน retrieval/storage ซึ่งเป็นส่วนที่เคลื่อนไหว ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บแนวดิ่งจะถูกกว่าการเพิ่มช่องของ AS/RS ยิ่งคุณมีพื้นที่ในแนวดิ่งที่เป็นที่โล่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่องบประมาณของคุณ
- สภาพการทำงานของบริเวณที่จะลงระบบเป็นอย่างไร
สภาพการทำงานของบริเวณที่จะลงระบบก็ส่งผลต่อต้นทุนการลงระบบเช่นกัน AS/RS ที่ทำงานในคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าที่อุณหภูมิปกติมักจะเป็นกลุ่มที่ราคาถูกที่สุด ขณะที่คลังที่สภาพการทำงานมีลักษณะพิเศษ เช่น เป็นห้องเย็น แช่แข็ง คลีนรูม หรือมีสภาพอันตราย (เช่นฝุ่น เคมี สารพิษ วัตถุระเบิด) จะเป็นกลุ่มที่มีราคาสูงที่สุด ค่าใช้จ่ายที่แตกต่างหลักๆคือวัสดุและค่าติดตั้ง AS/RS ซึ่งต้องสามารถทนต่อสภาพการทำงานเหล่านั้นได้
- น้ำหนักและขนาดของชิ้นงาน และคุณภาพการจัดการดูแลชิ้นงานว่าต้องระดับใด
ขนาดของชิ้นงานมีผลต่อราคาของระบบเป็นอย่างมาก เพราะขนาดของชิ้นงานจะเป็นตัวตัดสินว่าคุณต้องใช้ AS/RS ประเภทใด การลงระบบ Unit Load AS/RS (ซึ่งใช้เคลื่อนย้ายแพลเลท กล่อง Gaylord ถัง ลังขนาดใหญ่) มักจะแพงกว่า Mini-Load หรือ Shuttle System (ซึ่งใช้เคลื่อนย้ายกล่อง ลัง) ราคาที่ต่างกันเป็นเพราะ Unit Load AS/RS สามารถรับมือกับปริมาณสินค้าที่สูงกว่าและมีน้ำหนักมากได้ดีกว่า การเคลื่อนย้ายชิ้นงานที่มีน้ำหนักมากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีความทนทานสูง ระบบที่ใหญ่กว่า ภาพรวมจึงทำให้ราคาสูงกว่า ในทางกลับกัน Mini-Load หรือ Shuttle AS/RS สามารถรับมือกับปริมาณสินค้าในแต่ละครั้งได้ในปริมาณที่น้อยกว่า ซึ่งมักจะเป็นกล่องและลัง ทำให้สามารถใช้อุปกรณ์ที่ทนทานน้อยกว่า เล็กกว่า ซึ่งมักจะถูกกว่า
- ระบบการทำงาน การเข้าออกของสินค้าคงคลังเป็นอย่างไร
กระบวนการทำงานการเข้าออกของสินค้าคงคลังจากระบบ AS/RS ก็มีผลทางอ้อมต่อภาพรวมของราคาโครงการด้วย การเคลื่อนย้ายสินค้าด้วยรถเข็นหรือรถยกจะลงทุนเบื้องต้นน้อยกว่ามาก ขณะที่คอนเวย์เยอร์ กระสวย (Shuttle Car) หรือ AGVs ต้องลงทุนเบื้องต้นสูงกว่ามาก
- โครงสร้างเป็นอาคารโครงเหล็กทั่วไปหรือเป็นแบบใช้โครงสร้างของชั้นวางเป็นโครงสร้างอาคารไปด้วย
หากคุณกำลังพิจารณาลงระบบ AS/RS โดยเป็นส่วนหนึ่งของคลังสินค้าใหม่ ชนิดของอาคาร (ที่มีอยู่แล้ว หรือที่คุณกำลังวางแผนจะสร้าง) จะมีผลต่อราคาเป็นอย่างมาก เช่น หากเลือกที่จะสร้างเป็นอาคารแบบ rack-supported ที่ใช้โครงสร้างของชั้นวางเป็นโครงสร้างอาคารไปด้วย (ซึ่งสูงถึง 36.5 ม.) จะสามารถประหยัดกว่าอาคารโครงเหล็กแบบดั้งเดิม (สูงประมาณ 12 ม.) เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเพราะว่าอาคารแบบ rack-supported จะได้พื้นที่การจัดเก็บต่อตารางเมตรรวมที่มากกว่าเมื่อเทียบกับอาคารแบบดั้งเดิมที่เตี้ยกว่า เพราะการวาง layout ของระบบชั้นวางที่ใช้ในอาคารแบบดั้งเดิมจะถูกกำหนดด้วยเสารองรับโครงหลังคาจำนวนมากตลอดทั้งอาคาร ขณะที่อาคารแบบ rack-supported ที่ทำงานร่วมกับระบบ AS/RS จะสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างในอากาศด้วยโครงสร้างรองรับหลังคาที่ตอบโจทย์กว่า (ซึ่งทำให้การดีไซน์ระบบชั้นวางมีอิสระมากกว่า) และส่งผลให้มีปริมาณการจัดเก็บที่สูงกว่าแต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า
เมื่อคุณต้องลงระบบ AS/RS ในคลังสินค้าของคุณ ทุกอย่างตั้งแต่ความสูงของระบบ ไปจนถึงสภาพแวดล้อมการทำงาน ขนาดและชนิดของชิ้นงาน ล้วนแล้วแต่ส่งผลถึงต้นทุนของคุณ อย่างไรก็ตามปัจจัยเหล่านี้เป็นเพียงตัวที่จะส่งผลต่อต้นทุนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเป็นการมองเพียงด้านเดียว ดังนั้นในการพิจารณาคุณจึงควรมองในมิติที่ว่า AS/RS สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความแม่นยำในการควบคุมสต็อก และการประหยัดจากค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงและการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
วิธีที่จะได้ภาพที่ชัดเจนที่สุดว่าต้นทุนในการลงระบบ AS/RS ที่แท้จริงอยู่ที่เท่าไหร่ คือการขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้วางใจได้ สนใจรับคำปรึกษาจากมืออาชีพด้านคลังสินค้าอัตโนมัติ
หากคุณสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกดปุ่ม Contact ด้านล่าง
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.