
10 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาที่คุณควรใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ..
ประสิทธิภาพของคลังสินค้าถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จอีกอย่างในการประกอบธุรกิจ ต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ความคาดหวังที่สูงขึ้นของลูกค้า ต้องยกระดับการทำงานให้รวดเร็วแม่นยำที่สุดด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด แต่หากการบริหารคลังสินค้าไม่ได้ประสิทธิภาพ จะทำให้ธุรกิจที่กำลังเติบโตและควรจะทำกำไรได้ดีขึ้นกลับกลายเป็นขาดทุนได้ ยิ่งในปัจจุบันสภาพการทำงานยิ่งมายิ่งมีความซับซ้อน และต้องการความรวดเร็วมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดมากขึ้นด้วย ในธุรกิจทุกขนาด การบริหารคลังสินค้าที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ จัดส่งที่ล่าช้า ย่อมส่งผลให้สูญเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งที่มีความสามารถเหนือกว่า
10 สัญญาณต่อไปนี้เป็นเครื่องเตือนว่า คุณมีปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำแล้ว และถึงเวลาที่คุณควรใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ
- อัตราความผิดพลาดในการเบิกจ่ายสูง เช่น สินค้าจัดเก็บผิดตำแหน่งหรือสูญหาย ส่งสินค้าผิด ส่งผิดจำนวน บรรจุหีบห่อไม่เหมาะสมกับสินค้า สินค้าเสียหาย เอกสารระบุไม่ตรง ลูกค้าไม่พึงพอใจกับการบริการของบริษัท
- ส่งสินค้าล่าช้า / ค่าใช้จ่ายเร่งงานพุ่งสูง ปัญหาสินค้าส่งไม่ทัน ต้องใช้วิธีจัดส่งพิเศษตลอดเวลา อาจแปลว่าเจ้าหน้าที่คลังใช้เวลาหรือระยะทางในการเบิกจ่ายมากเกินความจำเป็น ปัญหาสินค้าในหนึ่งออเดอร์มารวมกันที่จุดจัดส่งห่างกันมากเกินไปจนทำให้กระบวนการส่งสินค้าเกิดความล่าช้า มีได้หลายสาเหตุเช่น การวาง layout และเลือก location จัดวางสินค้ายังไม่ดีพอ ส่งผลให้ใช้เวลาปฏิบัติงานนานกว่าที่ควรจะเป็น เกิดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน หรือไม่มีการบริหารเส้นทางที่สินค้าที่เข้าออกจากคลัง
- อัตราการเติมเต็มสินค้าไม่เพียงพอต่อออเดอร์ สินค้าคงคลังเหลือเยอะ หรือไม่พอขาย เนื่องจากสต๊อกไม่ตรงกับความเป็นจริง ออเดอร์ไม่สมบูรณ์ สินค้าผิด จำนวนผิดพลาด สินค้าเสียหาย ใบสั่งซื้อกับสินค้าที่มาจริงไม่ตรง อาจเกิดจากความผิดพลาดของซัพพลายเออร์ การบันทึกสต็อกไม่ตรง หรือการเบิกจ่ายที่ผิดพลาด
- ค่าใช้จ่ายด้าน Fulfillment พุ่งสูง หลายบริษัทไม่ทราบว่ายังใช้พื้นที่คลังสินค้าและแรงงานที่ไม่คุ้มค่า แรงงานยังมีเวลาเหลือ หรือจำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อนับสต๊อก และยังไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในการเติมเต็มสินค้า ซึ่งประกอบไปด้วยค่าแรง ค่าสถานที่ ค่าใช้จ่ายในการสต๊อกสินค้า ค่าใช้จ่ายด้านระบบต่างๆ อุปกรณ์ต่างๆ การจัดส่ง การคืนของ เมื่อธุรกิจโตขึ้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต่อหน่วยก็ควรลดลงตามไปด้วย ไม่ใช่เพิ่มขึ้น
- พื้นที่ในคลังไม่เพียงพอ เวลาคลังสินค้าเต็มล้นอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีพื้นที่ให้รถหรือคนงานเดินได้สะดวก หลายๆองค์กรจะคิดว่าถึงเวลาหาคลังใหญ่กว่านี้แล้ว แต่อาจจะลืมนึกถึงการบริหารจำนวนสินค้าคงคลังหรือเส้นทางภายใน
- สภาพแวดล้อมการทำงานสับสนอลหม่านตลอดเวลา การทำงานภายในคลังสินค้าไม่มีระเบียบแบบแผนตลอดเวลา พื้นที่ในคลังเหมือนหลุมดำที่ไม่มีใครมองเห็น หรือข้อมูลสินค้าคงคลังไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบไม่ได้
- อัตราการลาออกของแรงงานสูง สภาพการทำงานสับสนอลหม่าน มีงานธุรการแบบเดิมๆที่ซ้ำซากและมีปริมาณมาก (เช่น การลงบันทึกข้อมูล) การกระจายงานที่ไม่เท่าเทียม พนักงานและผู้จัดการคลังสินค้ามีปัญหาในการทำงาน ส่งผลให้คนงานเครียดและอัตราการลาออกสูง และคุณต้องเสียเวลากับการรับสมัครและฝึกคนงานใหม่ และต้องบริหารงานแบบลงรายละเอียด (micro-manage) อยู่เป็นประจำว่าต้องทำอะไร สินค้าอะไรอยู่ที่ตำแหน่งไหน
- พื้นที่รับสินค้าแออัด การที่พื้นที่รับสินค้าที่แออัด สินค้ากองอยู่ที่ท่ารถและใช้เวลานานมากในการรับเข้าระบบ จะทำให้งานล่าช้าทั้งกระบวนการ อัตราการสูญหาย สินค้าเสียหายก็จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นด้วย
- จำนวนครั้งของการเคลื่อนย้ายสินค้าสูงเกินไป หากสินค้าต้องผ่านมือคนงานหลายคนก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดหรือสินค้าเสียหาย ซึ่งหลายครั้งเกิดจากขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนเกินควร
- ธุรกิจยิ่งขยาย งานยิ่งวุ่นวาย คลังสินค้าไม่สามารถรับมือกับปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น หรือช่วงขายดี แปลว่าคลังสินค้าของคุณกำลังเป็นคอขวดที่ทำให้คุณขยายธุรกิจไม่ได้ หรือไม่สามารถทำรายได้ได้สูงสุดในช่วงขายดี
หากคุณกำลังประสบกับปัญหาข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อพร้อมกัน ถึงเวลาแล้วที่ควรจะพิจารณาลงทุนในระบบอัตโนมัติ การนำระบบคลังสินค้าอัตโนมัติมาใช้ร่วมกับการปรับปรุงการวาง layout และการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน จะช่วยให้ประเมินกระบวนการทำงานใหม่ทั้งหมด ให้เห็นว่ามีหนทางอะไรที่จะทำให้ทำงานได้ดีขึ้น ลดความผิดพลาด ตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น การทำงานราบรื่นมากขึ้น บริหารเส้นทางของสินค้า สามารถใช้พื้นที่ในคลังได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ขยายงาน รับมือกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นโดยยังใช้พื้นที่เท่าเดิม ชะลอยืดเวลาการสร้างคลังใหม่ออกไป การผลัดวันประกันพรุ่งจะทำให้เสียโอกาสในการขยายธุรกิจ กำไรหดหายไปกับต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าใช้จ่ายการขนส่งพิเศษ การคืนของ รวมถึงความเสี่ยงที่ลูกค้าหันไปใช้บริการของคู่แข่งก็เป็นได้
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.