
ชั้นวางอุตสาหกรรมจะต่อยอดให้กับธุรกิจคุณได้อย่างไร ลองมาดูกัน
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันที่ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและหายากมากขึ้น การเพิ่มปริมาณการจัดเก็บในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดต้องอาศัยการนำพื้นที่ในอากาศมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเท่านั้นจึงจะสามารถเป็นไปได้ องค์กรต่างๆจึงพยายามใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้จัดเก็บสินค้าให้ได้มากที่สุดโดยการเพิ่มความสูงของชั้นวางอุตสาหกรรมให้สูงขึ้นไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดต้องนำพื้นที่ในอากาศมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเท่านั้นจึงจะสามารถเป็นไปได้ ชั้นลอยในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บในคลังสินค้าให้ได้ปริมาณสูงสุด ทั้งยังช่วยให้การบริหารจัดการพื้นที่และสินค้าคงคลังเกิดประสิทธิภาพ ทำให้คนงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัย ซึ่งล้วนส่งผลต่อผลิตภาพโดยรวม
ชั้นวางอุตสาหกรรมได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ ในอดีตชั้นวางมาตรฐานส่วนใหญ่จะสูงอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร แต่ในปัจจุบันสามารถสูงมากขึ้นไปถึง 2 เท่า (15 เมตร) ขณะที่ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติ (AS/RS) สามารถสูงขึ้นไปถึง 38 เมตร และชั้นวางก็มีการติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆในแบบต่างๆที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดเก็บให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นหลายองค์กรหันมาใช้ Mezzanine Longspan Shelves มากขึ้นเพราะช่วยให้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่ได้คุ้มค่า ทั้งยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำ Fulfillment และผลักดันชิปเม้นท์ออกไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น บางแห่งเสริมด้วยระบบที่มีการทำงานแบบอัตโนมัติด้วย อย่างเช่นระบบชั้นวางแบบกระสวย (Shuttle Rack) เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในคลังสินค้าที่ใช้แพลเลทขนาดเดียวโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่มีการใช้ Shuttle Rack มากขึ้นในช่วงประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา
ประเด็นที่ควรพิจารณาเมื่อยกเครื่องระบบจัดเก็บ
การเปรียบเทียบราคา
ในการเปรียบเทียบข้อเสนอของแต่ละผู้ผลิต ชั้นวางเป็นสินค้าคงทนที่มีมูลค่าลงทุน ลูกค้าจึงควรพิจารณาเปรียบเทียบแบบแอปเปิ้ลต่อแอปเปิ้ล ทั้งความสามารถในการรับน้ำหนักของชั้นวาง ราคา และน้ำหนักรวมของตัวชั้นวางทั้งหมดด้วย บางรายอาจเสนอราคาต่ำกว่า 10% แต่ความสามารถในการรับน้ำหนักของชั้นวางอาจลดไปถึง 20%
ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ
ควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของพนักงานและการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์ด้วย เช่น ชุดป้องกันเสาชั้นวาง (Post Guard) ช่วยลดความเสียหายจากการถูกรถยกชน ตาข่ายป้องกันสินค้าหลังชั้นวาง (Backstay) ช่วยลดโอกาสที่สินค้าจะหล่นไปยังด้านหลัง รถกระเช้าหรือรถเบิกจ่ายสินค้าต้องมีการติดตั้งคอกกั้นป้องกันพนักงานพลัดตกขณะเบิกจ่ายสินค้าจากที่สูง เป็นต้น
ระยะเวลาและผลกระทบต่องานอื่นๆ
การต่อเติมหรือสร้างคลังสินค้าใหม่นั้นใช้เวลาและเงินลงทุนมาก การใช้ชั้นลอยสามารถติดตั้งได้ในเวลาอันรวดเร็ว ผลกระทบต่อการทำงานน้อยกว่า และยังคงผลิตภาพให้กับส่วนงานอื่นๆได้เต็มที่
มองถึงอนาคต
การลงทุนในลักษณะนี้ถือเป็นการลงทุนที่ตายตัว เมื่อตัดสินใจจะลงทุนชั้นวาง องค์กรควรวางแผนถึงอนาคตด้วย เพราะ Fulfillment มีความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเพื่อรองรับกับความคาดหวังของลูกค้าที่มีสูงขึ้น ในต่างประเทศมีงานวิจัยเรื่องอนาคตของ Fulfillment (Future of Fulfillment Vision) ของ Zebra Technologies ที่คาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2028 พัสดุกว่า 40% จะส่งมอบถึงผู้รับได้ภายใน 2 ชั่วโมง และในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นองค์กรจึงควรพิจารณาระบบชั้นวางที่สามารถพัฒนาให้รองรับงานในอนาคตด้วย เพราะชั้นวางถือเป็นส่วนประกอบอยู่ในจักรวาลคู่ขนานของระบบอัตโนมัติเช่นกัน
ในการเลือกชั้นลอยในสถานการณ์ปัจจุบันทันด่วน การเลือก Solution ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทันทีเป็นทางเลือกที่องค์กรส่วนใหญ่เลือก แต่จริงๆแล้วองค์กรจะสามารถประหยัดงบประมาณและเวลาได้อย่างมหาศาล หากลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่สามารถดัดแปลงเพื่อต่อยอดในอนาคตได้
*สื่อโฆษณา/ชิ้นงาน ข้อความในบทความนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
The commercial, including articles and artworks shown is an intellectual property of Jenbunjerd Co.,Ltd.
Unauthorized reproduction is prohibited and may subject to criminal prosecution.