
บทบาทของพนักงานคลังสินค้าจะเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อใช้ระบบอัตโนมัติ?
การนำระบบคลังสินค้าอัตโนมัติเข้ามาใช้ ด้วยอุปกรณ์และ Solution ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่เดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บและลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลด้วย ถือว่า Win-win กับทั้งบริษัทและพนักงาน และที่สำคัญที่สุดคือช่วยพัฒนาคุณภาพของงาน
ทำงานดีกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติเข้ามาทดแทนคนในได้ตรงไหนบ้าง
ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติช่วยให้การทำงานต่างๆในคลังสินค้าลื่นไหล รวดเร็ว และแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการรับเข้า จัดเก็บ เบิกจ่าย บรรจุและเตรียมจัดส่งสินค้า โดยระบบนี้มีส่วนประกอบต่างๆได้แก่
- รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ (Automated Guided Vehicles หรือ AGVs)
- ระบบสายพานลำเลียง (Conveyor Systems)
- ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage and Retrieval Systems หรือ AS/RS)
- ระบบเบิกจ่ายสินค้าขนาดเล็ก (Order Picking Solutions)
อย่างระบบอัตโนมัติที่ส่งของให้กับคน (Goods-to-person) เช่น ระบบ AS/RS แบบ Mini-Load ที่มีกระสวยส่ง ช่วยส่งสินค้ามาเป็นลัง กล่อง หรือถาดมาให้กับพนักงานที่จุดเบิกจ่ายสินค้าที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เมื่อเบิกจ่ายเสร็จ ระบบก็สามารถนำกลับไปยัง AS/RS ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้งานเบิกจ่ายสินค้ารวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำกว่าระบบเบิกจ่ายดั้งเดิมมากถึง 6 เท่า
เปลี่ยนบทบาทของพนักงานคลังสินค้า
ในคลังสินค้าอัตโนมัติ พนักงานคลังสินค้าจะมีหน้าที่ทำงานที่มีมูลค่ามากกว่าเดิม จากเดิมที่เดินไปมา เพื่อรับเข้า จัดเก็บหรือเบิกจ่ายสินค้า ยกของหนักไปยังพื้นที่ต่างๆ จะเปลี่ยนมาเป็นหน้าที่เหล่านี้แทน
- ใช้อุปกรณ์หรือเครื่องทุนแรง
- ดูแลการทำงานของระบบอัตโนมัติ
- วัดผลประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ
- รับและจ่ายงานสั่งซื้อต่างๆ
- จัดสรรและเลือกพื้นที่ในการเบิกจ่าย
- วางแผนเส้นทางเดินทางของสินค้าต่างๆ
- ดูแลสินค้าพิเศษที่ไม่สามารถนำเข้าระบบอัตโนมัติได้
งานที่มีความซับซ้อนด้านเทคนิคเหล่านี้จะช่วยดึงดูดคนทำงานหน้าใหม่เข้าสู่วงการจัดเก็บยกย้ายอีกด้วย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีความชื่นชอบและเชี่ยวชาญในระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ระบบอัตโนมัติในปัจจุบันมีหลากหลาย การลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจให้กับคุณ สิ่งสำคัญคือการเลือกคู่ค้าหรือบริษัทที่เข้าใจในการทำงานและสามารถส่งมอบเทคโนโลยีนั้นมาสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทของคุณ